Acticontact คือเทคโนโลยีใหม่ในการบำบัดน้ำเสีย ถือหลักการสร้างฟิล์มชีวภาพ (Biological film) โดยระบบนี้น้ำเสียและอากาศจะไหลขึ้นตามแนวตั้ง (upflow) ผ่านไปยังถังปฏิกิริยา(reactor tank) ซึ่งมีวัสดุกรอง Actilite porous filter.
Acticontact – การกรองน้ำให้บริสุทธิ์ – วิธีธรรมชาติ
ด้วยแนวทางนี้ ระบบ Acticontact ทำให้การบำบัดน้ำเสียทำได้โดยง่ายและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่น้ำเสียไหลผ่านวัสดุกรองที่เป็นรอยพรุน สาร BOD ในน้ำจะถูกเก็บกักและย่อยสลายโดยแบคทีเรียซึ่งสะสมบนพื้นผิวของวัสดุกรอง ดังนั้น ระบบ Acticontact จึงสามารถรับภาระ BOD ได้เหนือกว่า และยิ่งไปกว่านั้น ผลการเปรียบเทียบกับระบบอื่นๆ ปรากฏมาเป็นที่น่าพอใจในเรื่องประสิทธิภาพของการกำจัด BOD ได้สูงในระดับองศาเดียวกันกับ BOD Loading
Actilite เป็นวัสดุกรองมีรอยพรุนบนพื้นผิวกว้าง Actilite มีหลายชนิดแตกต่างกัน เลือกชนิดที่เหมาะสมได้ตามลักษณะของน้ำเสียที่ต้องการบำบัด
Features
ระบบสามารถรับอัตราการรับภาระได้สูงกว่า/มีขนาดกระทัดรัด
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ activated sludge สามารถรับอัตราการรับภาระได้ถึง 0.3 ถึง 1.0 กิโลกรัม/ลบ.ม./วัน หากจะเปรียบเทียบ Acticontact สามารถ รับมือ BOD Loading ได้สูงถึง 3 ถึง 17 kg.BOD/ลบ.ม./วัน ซึ่งหมายความว่า Acticontact กำหนด Oxidation contact area เพียง 1/3 ถึง 1/10 ของระบบ ในทำนองเดียวกัน Acticontact ให้พื้นที่ผิวหน้ามากกว่าแผ่นกรองชีวภาพ และที่สำคัญคือ ราคาไม่สูง อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่
มีความสามารถในการปรับตัวได้ดีกว่าเพื่อรองรับการผันผวนของคุณภาพน้ำเสีย ง่ายต่อการบำรุงรักษา
วัสดุกรอง Actilite มีพื้นผิวหน้ามากถึง 200 – 500 ms./ms. เนื่องจาก แบคทีเรียและตะกอนแขวนลอยไม่เพียงแต่จะสะสมอยู่บนพื้นผิวของวัสดุกรองเท่านั้นแต่ยังอยู่ในช่องว่างต่าง ๆ ด้วยเหมือนกัน ตะกอนแขวนลอยบน Actilite มีปริมาณสูงมาก นอกจากนี้ Acticontact ยังสามารถรับมือกับความผันแปรของ BOD loading และค่า pH รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในสภาพการทำงาน
เนื่องจากแบคทีเรียติดอยู่บนวัสดุกรอง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะให้ตะกอนจุลินทรีย์กลับมา และยังไม่เคยปรากฏปัญหาเช่นนี้ซึ่งเป็นปกติที่พบในกระบวนการบำบัดน้ำทางชีวภาพแบบสามัญ
ปริมาณตะกอนจุลินทรีย์น้อยกว่า
พื้นผิวของฟิล์มชีวภาพของ Acticontact อยู่ในสภาวะต้องการออกซิเจนในขณะที่พื้นผิวภายในอยู่ในสภาวะไม่ใช้ออกซิเจน สภาวะนี้มีผลดีต่อตะกอนจุลินทรีย์ที่สร้างอาหารได้เอง ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากตะกอนจุลินทรีย์ในถังปฏิกิริยามีความเข้มข้นสูงกว่าทำให้มีอายุยาวกว่า ประกอบกับห่วงโซ่อาหารที่ยาวกว่าซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มจุลินทรีย์หลากหลายสายพันธุ์ทำให้ตะกอนจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในถังมีปริมาณน้อยกว่า
ถ้าจะระบุให้ชัดเจนลงไป ปริมาณของ sludge ที่ถูกสร้างขึ้นในปฏิกิริยา Acticontact มีปริมาณเท่ากับ ½-1/3 ของที่ถูกสร้างในกระบวนการบำบัดน้ำด้วยตะกอนเร่ง ( activated sludge)
ไม่จำเป็นต้องมีหัวเชื้อตะกอนจุลินทรีย์ – เริ่มเดินระบบได้ดีกว่า
ไม่จำเป็นต้องมีหัวเชื้อตะกอนจุลินทรีย์ในช่วงเริ่มเดินระบบปฏิกิริยา ระบบเริ่มทำงานเต็มที่ภายใน 2-7 วันหลังจากปล่อยน้ำเสียและอากาศผ่าน กลุ่มจุลินทรีย์ที่เติบโตในปฏิกิริยาจะถูกกักเก็บที่วัสดุกรอง ดังนั้น การหยุดชะงักใด ๆ ในระหว่างปฏิบัติงานจะไม่ทำให้การเริ่มเดินระบบในช่วงต่อไปช้าลง